วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปลาเนื้ออ่อนนึ่ง จิ้มแจ่ว

              



 วันนี้ขอนำเสนอ อาหารเพื่อสุขภาพ ที่ทานแล้วมีประโยนชน์ ที่สำคัญไม่อ้วน นั่นก็คือ
เมนูปลาเนื้ออ่อนนึ่ง จิ้มแจ่ว ที่เราต้องใช้เป็นปลาเนื้ออ่อนเพราะ เป็นปลาที่ทานง่าย ก้างก็น้อยอีกทั้งยังสามารถทำอาหารได้หลายเมนู เรามาเริ่มลงมือทำกันเลยดีกว่า
     เริ่มจากการนำปลาเนื้ออ่อน มาล้างทำความสะอาด ใช้มีดบั้งลำตัวปลาให้เป็นแนวขวางทั้งสองด้าน  แล้วนำไปนึ่งวางบนตะไคร้ ใบมะกรูด ผักชี คื่นฉ่าย สมุนไพรทั้ง 4ชนิดนี้ จะช่วยเพิ่มความหอม และดับกลิ่นคาวของปลาได้เป็นอย่างดี  ใช้เวลานึ่งไม่นาน ประมาณ 15 นาที  ก็จะได้ปลาที่สุกขาวน่ารับประทาน สามารถรับประทานกับผักลวก หรือผักนึ่ง แล้วแต่ความชอบของเรา ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว แตงกวา ใบทองหลาง ใบโหรพา มะเขือเปราะ และผักอื่นๆได้อีกมากมาย

เคล็ดลับของเราอยู่ที่ ปลาเนื้ออ่อน เราจะใช้ปลาสดๆจากแม่น้ำ เท่านั้น เพราะถ้าปลาสดเวลาเรานำมานึ่ง มันจะทำให้ได้เนื้อปลาที่เนื้อแน่น ไม่เละ มีรสหวาน ที่สำคัญ ไม่มีกลิ่นคาวอย่างแน่นอน

มาถึงขั้นตอนการทำแจ่วพริกสด
ส่วนผสมก็จะมี
พริกสด,พริกชี้ฟ้าแดง
กระเทียมกลีบใหญ่
หอมแดงไทย
มะเขือเทศ
น้ำปลาร้า
ผักชี
มะกอกหรือมะนาว


พอได้ส่วนผสมทั้งหมดมาแล้ว เราก็มาลงมือทำ แจ่วพริกสดกันเลย

ขั้นแรก นำพริกสด,กระเทียม,หอมแดง,มะเขือเทศ ไปย่างไฟให้สุกและหอม เคล็ดลับคือ ถ้าอยากให้ส่วนผสมมีกลิ่นหอมและฉุน แนะนำให้ย่างในเตาถ่านคะ แต่ถ้าบางคนไม่สะดวก ก็สามารถ คั่วในกะทะแทนกันได้

จากนั้น นำพริกที่ย่างจนสุกแล้ว ลงโคลกก่อน ตามด้วยหอมแดงและกระเทียมที่ย่างแล้วเหมือนกัน (โคลกพอ
หยาบๆก็พอ ) ตามด้วยผักชีหั่นหยาบพร้อมรากผักชีด้วยนะคะจะได้หอม                                                           โคลกส่วนผสมให้เข้ากัน สุดท้ายก็คือมะเขือเทศที่ย่างจนสุกแล้วนำลงไปโคลกรวมกันเลยคะ

สุดท้าย ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ผงปรุงรสนิดหน่อยถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ ใส่มะกอกถ้าไม่มีให้ใส่มะนาวแทนได้ 
รสชาติดจะออกเผ็ดๆเปรี้ยวๆของมะเขือเทศและมะกอก เป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมเสริฟคู่กับปลาเนื้ออ่อนนึ่ง 
รับประทานพร้อมเครื่องเคียง เป็นผักนึ่งหรือผักต้มก็ได้ค่ะ แล้วแต่เราชอบ


ง่ายๆแบบนี้ สามารถ ทำรับประทานเองได้ที่บ้าน แต่ถ้าใครไม่สะดวก ที่ร้านเราก็มีบริการ เสริฟร้อนๆ พร้อมบรรยากาศแสนอบอุ่น ดนตรีเพราะๆ ไว้คอยบริการทุกคน


สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.thehomeubon.com
หรือ อีกหนึ่งช่องทาง FB: The Home Ubon



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น