วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

"หลนปลาส้ม"


เครื่องจิ้มจากทางภาคอีสาน ที่นำปลาส้ม ซึ่งเป็นเนื้อทำจากปลาสวาย ทอดจนสุกหอมต้มกับกะทิและสมุนไพรต่างๆ จนได้รสชาติกลมกล่อมแล้ว เสิร์ฟพร้อมกับผักสดชนิดต่างๆ ที่เข้ากันได้อย่างลงตัวสุดๆ ค่ะ

ส่วนผสม
  • ปลาส้มแกะเอาแต่เนื้อ 1 ถ้วยตวง
  • กะทิ 2 ถ้วยตวง
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ข่าอ่อนซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูแห้งทอดกรอบ 20 เม็ด
  • หอมแดงซอยหยาบ 10 หัว
  • ผักชี 2 ช่อ
  • น้ำมันพืช
  • ผักสดตามใจชอบ


  • วิธีทำ
  • นำน้ำมันพืชใส่กระทะพอร้อน ใส่ปลาส้มลงทอดให้สุกหอม พักให้สะเด็ดน้ำมัน แกะเนื้อให้ได้ 1 ถ้วยตวง
  • ตั้งกะทิให้ร้อน ใส่ปลาส้มทอดคนให้เข้ากัน ใส่ตะไคร้ ข่า และน้ำปลา คนเร็วๆยกลงตักใส่ภาชนะ
  • ตกแต่งด้วยหอมแดงซอย พริกขี้หนูแห้งทอดกรอบ และผักชี จัดเสิร์ฟพร้อมผักสด
  • วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    “แกงคั่วหน่อไม้” เมนูอาหารไทยรสเข้มข้น


    “หน่อไม้” เป็นคำที่ใช้เรียกหน่ออ่อนของไผ่ที่รับประทานได้ ซึ่งแตกออกมาจากเหง้าใต้ดินค่ะ เป็นวัตถุดิบที่หาง่ายและราคาไม่แพงค่ะ ยิ่งนำมาทำแกงคั่วด้วยแล้ว ความหอมของเครื่องแกง ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ ว่าแล้วก็หิวแล้วค่า มาเริ่มลงมือทำเมนู “แกงคั่วหน่อไม้” กันเลยจ้า



    ส่วนผสม
  • หน่อไม้สด 500 กรัม
  • เนื้อไก่ ตีนไก่ 500 กรัม
  • กะทิสด 500 กรัม
  • น้ำพริกแกงคั่ว 100 กรัม
  • ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
  • ใบโหระพา 1 ช้อนโต๊ะ

  • วิธีทำ
  • ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลางค่ะ พอกระทะเริ่มร้อนใส่กะทิลงไปเคี่ยวให้แตกมัน ตามด้วยพริกแกง จากนั้นผัดให้เข้ากันจนหอมเลยค่ะ
  • เมื่อพริกแกงหอมแล้ว ให้เติมหางกะทิที่เหลือลงไปค่ะ รอจนเดือด


  • เมื่อกะทิเดือดได้ที่แล้ว ใส่ไก่ลงไปเลยค่ะ ดูจนเนื้อไก่สุกดี ใส่หางกะทิเติมลงไปอีกค่ะ
  • เมื่อเนื้อไก่สุกแล้ว ให้ใส่หน่อไม้ลงไป แล้วเคี่ยวจนหน่อไม้สุก


  • เมื่อส่วนผสมได้ที่แล้ว ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ แล้วคนให้เข้ากัน
  • ตามด้วยใบมะกรูดฉีกและพริกชี้ฟ้าแดงคนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วปิดไฟได้เลยค่ะ
  • นำโหระพาใส่หลังสุดเลยค่ะ คนให้เข้ากันเป็นอันเรียบร้อยจ้า


  • นำแกงคั่วหน่อไม้ตักใส่ชาม ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้า เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ รับรองไม่ผิดหวังค่า
  • วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    "ปลาส้มทอด"


    "ปลาส้มทอด" อาหารไทยที่กินกันมาตั้งแต่โบราณโน่นแล้ว จับเอาปลาส้มที่ได้มาจากนำปลาชนิดต่างๆ ไปหมักกับข้าว กระเทียม และเกลือจนเปรี้ยว จากนั้นก็นำมาทอดให้กรอบ ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบ้าน ได้รสชาติเค็มๆ เปรี้ยวๆ ยั่วน้ำลายได้ดีสุดๆ ไปเลย สำหรับใครที่อดใจไม่ไหว อยากจะลงมือทำปลาส้มทอดกันแล้ว มาดูวิธีทำกันเลย

    ส่วนผสม
  • ปลาตะเพียน (น้ำหนักประมาณ 400 กรัม) 2 ตัว
  • กระเทียมไทยกลีบเล็กโขลกหยาบ 150 กรัม
  • ข้าวหอมมะลิหุงสุก 200 กรัม
  • เกลือป่นหยาบ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
  • หอมแดงเจียวสำหรับโรย 1 ถ้วยตวง
  • พริกขี้หนูแห้งทอดสำหรับโรย
  • มะนาวผ่าซีก
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด

  • วิธีทำ
  • ขอดเกล็ดปลาตะเพียน ผ่าท้องควักไส้ดึงเหงือกปลาออกให้หมด
  • ผสมกระเทียม ข้าวหอมมะลิ และเกลือป่น เคล้าพอเข้ากัน จากนั้นนำปลาลงคลุกเคล้านวดเบา ๆ จนทั่วและเข้ากันดี แล้วยัดข้าวใส่ในท้องปลาจนเต็ม
  • ใส่ปลาลงในภาชนะปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 5 วันหรือจนปลามีกลิ่นเปรี้ยว
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน นำปลาส้มที่หมักจนได้ที่คลุกกับแป้งข้าวเจ้าพอทั่ว ใส่ลงทอดจนสุกเหลืองทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  • จัดปลาส้มทอดใส่จาน โรยหอมแดงเจียว พริกขี้หนูแห้งทอด วางเคียงด้วยมะนาว จัดเสิร์ฟ
  • วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    “ผัดเผ็ดปลาดุก”


    วันนี้ขอนำเสนอเมนู “ผัดเผ็ดปลาดุก” ค่ะ พอดีได้ปลาดุกมา ตัวกำลังดีเลยจ๊ะ นึกเมนูอยู่นานไม่รู้จะทำอะไรทาน แต่ด้วยความอยากทานอะไรที่รสชาติจัดจ้าน เลยออกมาเป็นเมนูผัดเผ็ดค่ะ ชอบความหอมของสมุนไพรไทย ที่ทำเมนูไหนก็ทานได้ไม่เบื่อเลยค่ะ เพื่อนๆ ตามมาดูวัตถุดิบกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรกันบ้าง

    ส่วนผสม
  • ปลาดุก 500 กรัม
  • พริกแดงจินดา 10 เม็ด
  • พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
  • กระเทียม 7 กลีบ
  • ใบมะกรูด 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยอ่อน 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระชายซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบโหระพา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่าต้มสุก ½ ถ้วยตวง
  • ใบกะเพรา ตามต้องการ

  • วิธีทำ
  • นำพริกแดงจินดาและกระเทียมโขลกให้เข้ากัน ไม่ต้องละเอียดมากค่ะ พอหยาบ ๆ พอค่ะ เสร็จแล้วพักไว้ค่ะ
  • ตั้งกระทะไฟกลาง พอกระทะร้อนใส่น้ำมันลงไปค่ะ ตามด้วยพริกแดงจินดา และกระเทียมที่โขลกไว้ใส่ลงในกระทะ แล้วผัดให้หอมเลยค่ะ
  • หลังจากนั้นใส่ปลาดุกที่เตรียมไว้ลงไปค่ะ ระหว่างนี้เติมน้ำเปล่าต้มสุกลงไปค่ะ เพื่อให้ปลาดุกสุกอย่างทั่วถึงกัน
  • หาฝาปิดกระทะ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าเนื้อปลาจะสุกค่ะ เมื่อเนื้อปลาสุกได้ที่แล้วใส่พริกไทยอ่อน กระชายซอย และใบมะกรูด ลงไปผัดให้เข้ากันเลยค่ะ
  • ปิดไฟได้เลยค่ะหลังจากนั้นผัดต่ออีกนิด เพื่อให้ใบกะเพราสลด ก็เป็นอันใช้ได้แล้วค่า ชิมรสตามชอบ
  • นำผัดเผ็ดปลาดุกตักใส่จาน ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดง แค่นี้ก็จัดเสิร์ฟได้เลยจ้า
  • วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    ซี่โครงหมูอ่อนต้มแซ่บพริกแห้ง


    เมนูอาหารไทยรสเด็ดแซ่บ กับ ซี่โครงหมู ชิ้นขนาดพอดีคำ ตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม ต้มพร้อมกับพริกแห้งและเครื่องต้มแซ่บต่างๆ ปรุงรสจนได้ที่แล้วตักใส่ชามจัดเสิร์ฟได้เลย เพียงแค่ซดน้ำซุปคำแรกก็สัมผัสได้ถึงความอร่อยถึงคำโตเลยทีเดียว
    ส่วนผสม
  • ซี่โครงหมูอ่อนหั่นชิ้น 350 กรัม
  • ตะไคร้หั่นแฉลบ 3 ต้น
  • ข่าหั่นแว่น 3 แว่น
  • ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
  • พริกขี้หนูแห้งทอดโขลกพอแตก 10 เม็ด
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดฟางผ่าครึ่งดอก 5 ดอก
  • หอมแดงทุบพอแตก 3 หัว
  • มะเขือเทศสีดาเผา 3 ลูก
  • น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
  • ผักชีฝรั่งซอย 1/4 ถ้วยตวง
  • เกลือป่นหยาบ

  • วิธีทำ
  • ใส่น้ำเปล่าและซี่โครงหมูอ่อนลงในหม้อ เติมเกลือป่น ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือดช้อนฟองออกให้หมด เคี่ยวจนซี่โครงหมูนุ่ม
  • ใส่ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด หอมแดง มะเขือเทศสีดา พอเดือด ปรุงรสด้วย น้ำปลา ใส่เห็ดฟาง พอสุกยกลง
  • ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ใส่พริกขี้หนูแห้ง ข้าวคั่ว ผักชีฝรั่ง คนให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
  • วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    “คอหมูสะดุ้งไฟ” เมนูหมูเด็ดพร้อมสูตรน้ำจิ้มแจ่ว


    เรารู้ว่าเพื่อนๆ หลายคนคงปฏิเสธความฟินเวลาทานคอหมูย่างไม่ลง แต่จะหาร้านที่รสชาติถูกลิ้นมันก็ยากเกินไป วันนี้เราขอเสนอ ด้วยการแจกสูตร “คอหมูสะดุ้งไฟ” พร้อมสูตรน้ำจิ้มแจ่ว แบบไม่มีกั๊ก อย่ารอช้าอ่านสูตรกันเลย
    ส่วนผสม
  • เนื้อสันคอ 500 กรัม
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 2 ช้อนชา
  • น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • นมข้นจืด ตรามะลิ โปรเฟสชั่นแนล 1/4 ถ้วย
  • 3 เกลอ 1 ช้อนโต๊ะ (รากผักชี / กระเทียม / พริกไทย)
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ผักกาดหอม / แตงกวา / มะเขือเทศ สำหรับทานคู่

  • ส่วนผสมน้ำจิ้มแจ่ว
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 2 ช้อนชา
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนชา
  • ต้นหอม ผักชี ผักชีฝรั่ง สำหรับโรยหน้า

  • วิธีทำ
  • นำคอหมูมาจิ้มด้วยส้อมให้ทั่ว ก่อนนำไปหมัก
  • เทพริกไทยเม็ด กระเทียม ผักชี เกลือ น้ำผึ้ง ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และ นมข้นจืด ตรามะลิ โปรเฟสชั่นแนล ลงไปในชามผสมแล้วนำคอหมูที่เตรียมไว้ลงไปหมัก เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที
  • นำน้ำปลาใส่ลงในถ้วย ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก พริกป่น และข้าวคั่ว คนให้เข้ากัน ปรุงรสเพิ่มได้ตามชอบ จากนั้นโรยด้วยต้น ผักชี และผักชีฝรั่ง พักไว้เตรียมจัดเสิร์ฟ
  • นำคอหมู ที่หมักครบเวลาเรียบร้อยแล้วมาย่างบนกระทะ ด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อน จนหมูสุกทั่วทั้งชิ้น
  • นำคอหมูย่างที่สุกแล้วมาหั่นสไลซ์บางชิ้นพอดีคำ จัดใส่จานพร้อมตกแต่งด้วยผักกาดหอม แตงกวา และมะเขือเทศ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ เท่านี้ก็ได้ “คอหมูสะดุ้งไฟ”
  • วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    "แหนมซี่โครงหมูอีสาน"


    "แหนมซี่โครงหมู" ถือเป็นอีกหนึ่งกรรมวิธีในการแปรรูปอาหารอีสานให้ยืดระยะเวลาในการเก็บได้นานขึ้น นอกจากทานกับข้าวสวยร้อน ๆ แล้วก็สามารถ ทานเล่นได้เช่นเดียวกัน ทำง่าย ๆ แถมอร่อยลองทำแล้วทานดูค่ะ

    ส่วนผสม
  • ซี่โครงหมูส่วนใบพาย 500 กรัม
  • ผงทำแหนม 15 กรัม
  • เกลือแหนม (อยู่ในซองผงทำแหนม) 3/4 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา
  • กระเทียมโขลกหยาบ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด

  • วิธีทำ
  • ล้างซี่โครงหมูให้สะอาด ซับให้แห้งสนิท หั่นชิ้นพอคำ นำเข้าแช่ตู้เย็นจนเย็นจัด
  • ใส่ผงทำแหนม เกลือแหนม น้ำตาลทราย และกระเทียมลงบนซี่โครงหมู ขยำจนส่วนผสมเข้ากันประมาณ 20 นาที
  • ตักแหนมซี่โครงหมูใส่ถุงพลาสติก รีดอากาศออกให้หมด มัดด้วยยางให้แน่น นำเข้าในตู้เย็น ช่องธรรมดา แช่ไว้ 2 วัน
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชใช้ไฟปานกลางพอร้อน ใส่แหนมซี่โครงหมูลงทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
  • วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    “ส้มตำเส้นข้าวเปียก” เมนูอาหารอีสานแซ่บจนพ่นสำเนียงอีสาน!



    ความนัวไม่เคยปรานีใคร! จัดเมนูอาหารอีสานราชินีแห่งความแซ่บ“ส้มตำเส้นข้าวเปียก” ที่ขอโม้เลยว่าถ้าใครได้ลองแล้วต้องร้อง "แซ่บอีหลีเด้อ!" พร้อมแล้วเตรียมครกเลยจ้า หลายคนอาจจะไม่คุ้นตาหรือคุ้นลิ้นกันสักเท่าไหร กับเมนู “ส้มตำเส้นข้าวเปียก” เพราะเป็นเมนูส้มตำที่อิมพอร์ตสูตรจากประเทศลาว เรียกว่าหาทานยากเอามากๆ ค่ะ แต่ความนัวนั่นไม่เป็นสองรองเมนูส้มตำอื่นๆ เลยจ้า โดยส้มตำเมนูนี้จะมีวัตถุดิบหลักอย่าง “เส้นข้าวเปียก” หรือ “เส้นกวยจั๊บญวน” นั่นเองค่ะ มันจะแซ่บจะโดนโคนลิ้นขนาดไหน มาเฮ็ดกันเลยเด้อจ้า!


    ส่วนผสม
  • เส้นกวยจั๊บญวน 1 ก้อน
  • มะเขือเทศ 4 ลูก
  • พริกสด 8 เม็ด
  • มะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ผักกะหล่ำปลี 20 กรัม
  • ผักบุ้ง 20 กรัม
  • หมูยอ 10 กรัม
  • ลูกชิ้นปลา 10 กรัม
  • ถั่วลิสง 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ

  • วิธีทำ
  • นำหม้อใส่น้ำขึ้นตั้งไฟ รอให้น้ำเดือดจากนั้นนำเส้นกวยจั๊บญวนลงไปต้มเป็นเวลา 7 - 9 นาที ให้เส้นนุ่มแต่ไม่เละ โดยเราจะใช้ตะเกียบช้อนเส้นกวยจั๊บขึ้นมาให้ถูกอากาศ เพื่อทำให้เส้นของเราเหนียวนุ่ม เมื่อเส้นสุกไม่แข็งเป็นไต ให้เรานำเส้นขึ้นจากน้ำร้อนแล้วนำไปแช่ในน้ำเย็นจัด เพื่อให้เส้นคลายความร้อนและไม่สุกต่อ จากนั้นนำเส้นขึ้นจากน้ำ พักให้สะเด็ดน้ำก่อนนำไปตำ เพื่อไม่ให้รสชาติของส้มตำของเราจืด
  • นำหม้อใส่น้ำขึ้นตั้งไฟ รอให้น้ำเดือดจากนั้นเติมเกลือลงไปในน้ำร้อน เพื่อให้ผักที่ลงไปต้มสีสดคงเดิม เมื่อน้ำเดือดแล้วให้เราใส่ผักบุ้งและผักกะหล่ำปลีลงไปต้ม ลวกเป็นเวลา 2 นาทีเพื่อไม่ให้ผักเปื่อย แล้วตักขึ้นจากน้ำร้อนพักให้สะเด็ดน้ำก่อนนำไปตำ
  • ใส่พริกขี้หนูสีแดงลงไปในครก แล้วโขลกให้พริกสดแค่พอหยาบๆ
  • ใส่มะเขือเทศลงไป โดยเราจะใช้สากบี้ๆ
  • เติมเครื่องปรุง อย่าง น้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำสต๊อกอีสานหรือน้ำปลาร้านั่นเอง คนให้ทุกอย่างเข้ากันแล้วชิมรสชาติให้ตรงกับที่ชอบ
  • ใส่เส้นกวยจั๊บญวน ผักบุ้งและผักกะหล่ำปลี ลูกชิ้นปลาและหมูยอลงไปเคล้ากับน้ำปลาร้าที่ปรุงรสไว้ จัดเสิร์ฟลงในจานแล้วโรยถั่วลิสงกับหอมเจียว ถึงเวลามาจกกันแล้วจ้า!
  • วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    “พล่ากุ้งนาง” เมนูอาหารอีสาน สมุนไพรจัดเต็ม!



    “พล่า” เป็นเมนูคล้ายยำแต่ใส่น้ำพริกเผา และเพิ่มเติมเครื่องสมุนไพร ตะไคร้ ใบมะกรูด เข้ามาแบบไม่ยั้ง ทำได้หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมูหรือเนื้อวัว แต่เมนูที่เป็นที่รู้จักกันมาสุด คือ “พล่ากุ้ง” ค่ะ เนื่องจากรสชาติที่กลมกล่อม เปรี้ยว เค็ม หวาน มาครบ เผ็ดก็มาเช่นกัน ที่สำคัญตัวชูโรงงานนี้ คือ สมุนไพรที่ต้องขนกันมาจนหมดสวน แต่ละอย่างส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ทานคำไหนก็สดชื่น ยิ่งถ้าได้กุ้งสด ๆ ลวกพอสุก โอ้โห! สวรรค์ค่ะคุณ ถ้าพร้อมแล้วมาลงมือกัน



    ส่วนผสม
  • กุ้งนางหรือกุ้งแม่น้ำตัวเล็ก 10 ตัว
  • น้ำพริกเผา 1.5 ช้อนโต๊ะ
  • พริกแดงและพริกขี้หนู 5 เม็ด
  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • ใบมะกรูด 4 ใบ
  • หอมแขก 1 หัวเล็ก
  • ต้นหอม 2 ต้น
  • ผักชี 1 ต้น
  • ผักชีใบเลื่อย 1 ต้น
  • ใบสะระแหน่ 1 ต้น


  • วิธีทำ
  • ซอยตะไคร้ ใบมะกรูด พริก และหอมแขก
  • หั่นต้นหอม ผักชี ผักชีใบเลื่อยเป็นท่อน ประมาณ 1 เซนติเมตร ส่วนใบสะระแหน่เด็ดเอาแต่ใบ
  • ปอกเปลือกกุ้ง เว้นหางและหัวไว้ ผ่าหลังเอาเส้นดำออก แล้วลวกในน้ำเดือดจัด สัก 3 นาที ให้กุ้งสุกพอดี
  • ใส่พริกซอย น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และน้ำพริกเผาคนให้เข้ากัน จนน้ำพริกเผาละลาย
  • ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดงที่ซอยไว้ลงไปคนให้เข้ากัน
  • ใส่กุ้งนางที่ลวกไว้ตามลงไป คนให้เข้ากันอีกรอบ
  • ใส่ต้นหอม ผักชี และผักชีใบเลื่อย เคล้าให้เข้ากัน
  • ตักพล่ากุ้งลงในจานที่ต้องการจัดเสิร์ฟ เท่านี้เราก็ได้เมนูยำสุดแซ่บแล้วค่ะ
  • วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    "ซุปเปอร์เล้ง" เมนูต้ม ไซส์ยักษ์แทะมันฟินระเบิด!!!


    ฮิตสุด ๆ ในตอนนี้ หนีไม่พ้นเมนู “เล้งต้มแซ่บ” ที่นำกระดูกหมูเล้ง หรือกระดูกหมูต้มซุปมีเนื้อติดมาต้มให้เปื่อย จนน้ำซุปหวานแบบน้ำต้มกระดูก แล้วปรุงรสด้วยพริกขี้หนูสด มะนาว น้ำปลา รสชาติกลมกล่อม ซดร้อน ๆ ทานพร้อมข้าวสวย หรือเส้นต่าง ๆ ตามชอบ อื้อหือ อร่อยแซ่บมาก
    หลายคนคิดว่าเมนู “เล้งต้มแซ่บ” เป็นเมนูที่ทำเองไม่ได้ ดูยิ่งใหญ่ ต้องทำเยอะ ชีวิตชาวคอนโดหรือครอบครัวเล็ก ๆ คงหาโอกาสทำทานยาก ไม่จริงเลยค่ะ ปูนแดงปรุงเมนูในคอนโดเล็ก ๆ ทานคนเดียว ถ้าวันไหนทำเยอะ จะแบ่งทานค่ะ ตักมาสักถ้วยปรุงรสให้เด็ด ที่เหลือแบ่งใส่กล่องฟรีซในตู้เย็นเก็บไว้ทานได้หลายวัน หรือบางทีทานกระดูกหมดแล้ว เหลือน้ำซุป จะเก็บไว้ทำแกงจืด หรือทำเป็นน้ำสต๊อกไว้ปรุงอาหารอย่างอื่น

    ส่วนผสม
  • กระดูกเอียวเล้ง 1 กิโลกรัม
  • รากผักชี 3 ราก
  • น้ำเปล่า 3 ลิตร (ปริมาณน้ำขึ้นอยู่กับขนาดหม้อ)
  • หอมใหญ่ 1 หัว
  • หัวไชเท้า 1 หัว

  • วัตถุดิบสำหรับปรุงรส
  • น้ำปลา สำหรับปรุงรส
  • น้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
  • พริกขี้หนูสวน สีเขียว สำหรับโรยหน้า
  • ต้มหอมซอย สำหรับโรยหน้า
  • ผักชีฝรั่ง สำหรับโรยหน้า

  • วิธีทำ
  • นำน้ำใส่ในหม้อขึ้นตั้งไฟ รอน้ำเดือดแล้วใส่กระดูกเอียวเล้งที่ล้างสะอาดแล้วลงไปลวก โดยลวกไม่ต้องให้สุก เพราะเราต้องการล้างเศษเลือดที่อยู่ในกระดูกออก เพื่อทำให้น้ำซุปใสมากขึ้น
  • นำน้ำเปล่าใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟโดยใช้ไฟกลาง จากนั้นใส่กระดูกเอียวเล้งลงไปในหม้อ ตามด้วย หัวไชเท้า หอมใหญ่ รากผักชี พริกไทย
  • คอยช้อนฟองที่ลอยขึ้นบนผิวน้ำซุปออก เพื่อให้น้ำซุปใสมากขึ้น เมื่อน้ำซุปเริ่มเดือดแล้วลดไฟลง
  • เคี่ยวต่อเป็นเวลา 2 ชั่วโมง หากต้องการให้เนื้อล่อนจากกระดูกมากกว่านี้ก็เคี่ยวต่อไปอีก 1 ชั่วโมง
  • ตักเล้งและน้ำซุปลงในถ้วยที่ต้องการจัดเสิร์ฟ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว โรยหน้าด้วยพริกขี้หนูสวนสีเขียวบุบและต้นหอมซอย เท่านี้ก็ได้ “ซุปเปอร์เล้ง” ร้อน ๆ มาเสิร์ฟให้ซี้ดซ้าดกันถ้วนหน้าแล้วล่ะ
  • วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

    "ต้มซุปเปอร์ตีนไก่" เมนูไก่ ดูดมัน แซ่บจนต้องยกถ้วยซด!


    เวลาเห็นเมนู “ต้มซุปเปอร์ตีนไก่” เมื่อไหร่ร่างกายก็ส่งให้น้ำลายสอทุกที จนต้องสั่งมากินให้ได้ในเดี๋ยวนั้น แต่ราคาก็แพงแสนแพง ดูด ๆ ซด ๆ สองสามทีก็หมดชาม แถมบางร้านรสชาติผิดหวังสุด ๆ วันนี้เราเลยขอเปิดสูตรลับเมนู “ต้มซุปเปอร์ตีนไก่” ให้ทุกคนได้ทำทานที่บ้าน ขอบอกเลยว่าไม่ยาก แค่ต้องใช้เวลาในการเคี่ยวสักหน่อย ที่สำคัญถูกกว่าไปซื้อกินอีกต่างหาก พร้อมแล้วเรามาเข้าครัวกันดีกว่า!

    ส่วนผสม
  • ตีนไก่ 1 กิโลกรัม
  • น้ำเปล่า 3.5 ลิตร
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 5 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำหวาน 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชี 3 ราก (สำหรับทำซุป)
  • น้ำมะนาว 3 ลูก
  • พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด (เพิ่ม / ลด ได้ตามใจชอบ)
  • ผักชีซอย สำหรับโรยหน้า
  • ผักชีฝรั่งซอย สำหรับโรยหน้า

  • วิธีทำ
  • นำน้ำเปล่าลงไปในหม้อแค่พอท่วมตีนไก่ แล้วยกขึ้นตั้งไฟโดยใช้ไฟกลาง
  • เมื่อน้ำเดือดพล่านให้ค่อย ๆ ใส่ตีนไก่ที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้งลงไป ตามด้วยรากผักชี ต้มตีนไก่ไปจนกว่าจะครบ 1 ชั่วโมง
  • เมื่อครบ 1 ชั่วโมงแล้ว ใส่น้ำเปล่าที่เหลือจากที่ต้มตีนไก่ ลงไป
  • ตามด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำหวาน และเกลือป่นลงไปในหม้อ แล้วคนให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้จะทำให้น้ำซุปเปลี่ยนสี
  • เคี่ยวตีนไก่ในน้ำซุปด้วยไฟอ่อน จนกว่าจะครบเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้ตีนไก่เปื่อยนุ่ม
  • เมื่อครบเวลาแล้วก็ปิดไฟ จากนั้นตักตีนไก่พร้อมน้ำซุปลงในถ้วยจัดเสิร์ฟ
  • บีบมะนาวลงในถ้วย ตามด้วยพริกขี้หนูสวนบุบ ผักชีฝรั่งซอยและต้นหอมซอย เวลาทานก็คนให้เข้ากันก่อนซดนะจ๊ะ เพราะจะได้กินหอมของผักชีฝรั่งและรสชาติที่เราเพิ่งบีบมะนาวลงไป ฟินสุด!
  • Tip:ถ้าอยากให้ได้รสจัด ๆ นัวสุด ๆ แนะนำว่าต้องเติมน้ำปลาลงไปด้วยจ้า